หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “ไบโพลาร์” ผ่านหูมาบ้าง อาจจากข่าวดาราที่ออกมายอมรับว่าตัวเองป่วย หรือจากการหยอกล้อกันในกลุ่มเพื่อนว่า “แกนี่ไบโพลาร์หรือเปล่า เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย” ซึ่งคำพูดเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยยังเข้าใจผิดว่าโรคไบโพลาร์เป็นเพียง “อารมณ์แปรปรวน” หรือ “ขี้วีน” ทั้งที่ความจริงแล้ว ภาวะไบโพลาร์เป็นโรคทางสุขภาพจิตที่มีความซับซ้อนมากกว่านั้น และส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อทั้งผู้ป่วยและคนรอบข้าง หากไม่ได้รับความเข้าใจและการดูแลอย่างถูกต้อง
ไบโพลาร์คืออะไรกันแน่ (ไม่ใช่แค่ขี้วีนหรืออารมณ์แปรปรวน)
โรคไบโพลาร์ หรือ Bipolar Disorder เป็นความผิดปกติทางอารมณ์ (Mood Disorder) ที่มีลักษณะเด่นคือการแกว่งตัวของอารมณ์ไปมาระหว่างสองขั้วคือ ภาวะซึมเศร้า (Depressive Episode) และ ภาวะแมเนียหรือไฮโปแมเนีย (Mania/Hypomania) โดยช่วงเวลาของแต่ละขั้วอารมณ์อาจยาวเป็นสัปดาห์หรือเดือน ไม่ใช่แค่ขึ้นลงในหนึ่งวันตามเหตุการณ์เล็กน้อยแบบอารมณ์ทั่วไป
งานวิจัยของ American Psychiatric Association (APA) ชี้ว่าอาการไบโพลาร์เกิดจากความผิดปกติของสารสื่อประสาทและพันธุกรรมร่วมกัน ไม่ใช่เพียงบุคลิกหรือการเลี้ยงดู ดังนั้น การเหมารวมว่าเป็นเพียง “นิสัยขี้วีน” จึงไม่เพียงผิด แต่ยังอาจทำให้ผู้ป่วยถูกตีตราและไม่เข้าถึงการรักษาที่เหมาะสม
ความเข้าใจผิดที่คนไทยเจอบ่อยเกี่ยวกับไบโพลาร์
ในสังคมไทยยังมีทัศนคติที่เบี่ยงเบนเกี่ยวกับโรคนี้ เช่น
- การมองว่าผู้ป่วยเป็นคนอารมณ์รุนแรง ควบคุมตัวเองไม่ได้
- การใช้คำว่า “ดราม่า” หรือ “เว่อร์” แทนที่จะเรียกว่าโรค
- การคิดว่าผู้ป่วยสามารถ “เลือกได้” ว่าจะหายหรือไม่
ความเข้าใจผิดเหล่านี้นำไปสู่การตีตราทางสังคม (Stigma) ที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกผิด อับอาย และปิดบังอาการของตัวเอง ซึ่งอาจทำให้อาการทรุดหนักขึ้น และบางคนหลีกเลี่ยงการเข้ารับการรักษาจนเกิดผลเสียรุนแรงต่อสุขภาพกายและความสัมพันธ์รอบตัว
ทำไมสังคมและวัฒนธรรมไทยยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องไบโพลาร์
สาเหตุหลักที่คนไทยยังมองว่าไบโพลาร์คือ “อารมณ์แปรปรวน” มาจากปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นชินกับการพูดเรื่องสุขภาพจิต หลายครอบครัวมักมองว่าการไปพบจิตแพทย์คือเรื่องน่าอาย หรือกลัวว่าจะถูกมองว่า “บ้า” เมื่อรวมกับการที่สื่อมวลชนบางครั้งนำเสนอโรคจิตเวชอย่างผิดบริบท ยิ่งทำให้ภาพจำของไบโพลาร์กลายเป็นเพียง “คนอารมณ์ขึ้นลงรุนแรง”
นอกจากนี้ ในสังคมไทยยังมีความคาดหวังทางสังคมสูง ผู้ป่วยที่มีภาวะอารมณ์เปลี่ยนแปลงจึงถูกตีความว่า “ไม่เข้มแข็งพอ” หรือ “จัดการตัวเองไม่ได้” แทนที่จะมองว่าเป็นความผิดปกติทางสมองที่ต้องการการดูแลเหมือนโรคอื่น ๆ
เมื่อผู้ป่วยไบโพลาร์ต้องเจอคำว่า ‘อารมณ์แปรปรวน’
จากประสบการณ์ของนักจิตบำบัดในไทย หลายเคสสะท้อนตรงกันว่า ผู้ป่วยไบโพลาร์รู้สึกเจ็บปวดเมื่อถูกคนรอบข้างลดทอนอาการให้เหลือเพียง “อารมณ์ไม่ดี” ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยวัยทำงานที่ต้องพยายามปกปิดอาการซึมเศร้าเพราะกลัวเพื่อนร่วมงานจะมองว่า “ทำงานไม่สู้” หรือผู้ป่วยวัยรุ่นที่ถูกครอบครัวตำหนิว่า “ไม่เอาไหน” แทนที่จะได้รับการสนับสนุน
สิ่งที่ผู้ป่วยอยากให้สังคมเข้าใจคือ อาการเหล่านี้ไม่ใช่ความผิดหรือความอ่อนแอส่วนตัว แต่เป็นโรคที่สามารถรักษาและควบคุมได้หากได้รับการดูแลที่เหมาะสม
วิธีรับมือและสนับสนุนผู้ที่มีภาวะไบโพลาร์
การรับมือกับไบโพลาร์ต้องอาศัยทั้ง การรักษาทางการแพทย์ เช่น ยาควบคุมอารมณ์ (Mood Stabilizers) และ การบำบัดทางจิตใจ เช่น Cognitive Behavioral Therapy (CBT) ควบคู่ไปกับการดูแลจากครอบครัวและสังคม
สิ่งที่คนรอบตัวสามารถทำได้คือ
- เรียนรู้และเข้าใจโรค เพื่อลดการตีตรา
- สังเกตสัญญาณเตือน เช่น การนอนไม่หลับติดต่อกันหลายวัน อารมณ์ดีผิดปกติ หรือซึมเศร้าลึก
- ให้การสนับสนุนทางอารมณ์ เช่น การฟังอย่างไม่ตัดสิน และการอยู่เคียงข้างเมื่อผู้ป่วยต้องการความช่วยเหลือ
- สนับสนุนให้เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ผู้ป่วยรู้สึก “ปกติ”
เปลี่ยนความเข้าใจผิด สู่การเห็นใจและการดูแลที่ถูกต้อง
ไบโพลาร์ไม่ใช่เพียง “อารมณ์แปรปรวน” แต่เป็นโรคทางสุขภาพจิตที่ต้องการการดูแลเฉพาะทาง ความเข้าใจผิดที่ฝังรากลึกในสังคมไทยไม่เพียงทำร้ายผู้ป่วย แต่ยังขัดขวางการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ถึงเวลาแล้วที่เราควรเปลี่ยนจากการตีตราไปสู่การเข้าใจและสนับสนุน เพื่อให้ผู้ป่วยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
FAQ เกี่ยวกับโรคไบโพลาร์
Q: ไบโพลาร์รักษาหายขาดได้หรือไม่?
A: ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติหากได้รับยาควบคุมอารมณ์และการบำบัดที่เหมาะสม
Q: ไบโพลาร์กับโรคซึมเศร้าต่างกันอย่างไร?
A: โรคซึมเศร้ามีอารมณ์ซึมเศร้าเป็นหลัก ขณะที่ไบโพลาร์มีทั้งภาวะซึมเศร้าและภาวะแมเนียสลับกัน
Q: ถ้าคิดว่าตัวเองเป็นไบโพลาร์ ควรทำอย่างไร?
A: สิ่งสำคัญคือการเข้าพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการ ไม่ควรสรุปด้วยตัวเองเพราะอาจสับสนกับภาวะอื่น ๆ