Happy Me Clinic

นักจิตวิทยา

ครอบครัวบำบัด (Family Therapy) คืออะไร แนวทางเพื่อแก้ปัญหาครอบครัว

ครอบครัวคือระบบความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกัน เมื่อคนหนึ่งเครียดหรือเจ็บปวด ย่อมส่งผลถึงสมาชิกคนอื่น ๆ เพราะในบ้านเดียวกันไม่มีใครอยู่อย่างโดดเดี่ยวจริง ๆ บางครั้งสิ่งที่ครอบครัวต้องการจึงไม่ใช่คำอธิบายว่าใครผิดหรือถูก แต่คือ “การเข้าใจ” และ “การฟังกันด้วยหัวใจ” ครอบครัวบำบัด (Family Therapy) จึงเป็นกระบวนการที่ช่วยให้ทุกคนได้หยุดมองกันอีกครั้ง เพื่อให้เห็นคุณค่าของกันและกัน และค่อย ๆ สร้างสมดุลทางใจให้ครอบครัวกลับมาอบอุ่นเหมือนเดิม ครอบครัวบำบัดคืออะไร และเหมาะกับใคร ครอบครัวบำบัดคือแนวทางการดูแลทางจิตใจที่ใช้หลักจิตบำบัดในการเข้าใจพลวัตของครอบครัว หรือปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกแต่ละคน นักจิตวิทยาจะช่วยให้ทุกคนมองเห็นรูปแบบการสื่อสาร ความคิด และพฤติกรรมที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ เพื่อปรับเปลี่ยนให้เกิดความเข้าใจและการยอมรับซึ่งกันและกันมากขึ้น

อ่านต่อ

ความเครียดจากปัญหาความสัมพันธ์รับมือแบบไหนดี

ความรักมักมาพร้อมทั้งความสุขและความเครียด โดยเฉพาะเมื่อความสัมพันธ์เริ่มเต็มไปด้วยความคาดหวัง การไม่เข้าใจกัน หรือการสื่อสารที่ผิดพลาด หลายคู่จึงรู้สึกเหนื่อยเพราะเกิดความเครียดสะสม แต่รู้หรือไม่ว่าหลายครั้งความรู้สึกเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากอีกฝ่ายเพียงอย่างเดียว เพราะอาจมาจากวิธีที่เราจัดการอารมณ์ของตัวเองด้วยเหมือนกัน ซึ่งหากปล่อยไว้นานเกินไป ความเครียดจากความสัมพันธ์อาจกลายเป็นปัญหาทางใจที่ส่งผลต่อสุขภาพและชีวิตประจำวันได้ ทำไมความรักถึงทำให้เกิดความเครียดได้ แม้ความรักจะเป็นสิ่งที่เติมเต็มชีวิต แต่ในอีกด้านหนึ่งก็อาจกลายเป็นแหล่งสะสมความเครียดได้เช่นกัน เพราะความสัมพันธ์คือการปรับตัวของคนสองคนที่มีพื้นฐานชีวิต ความคิด และอารมณ์ต่างกัน การคาดหวังเกินไป รวมถึงยังมีความไม่มั่นใจ หรือความกลัวที่จะสูญเสีย ที่ล้วนเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความเครียดทางใจทั้งสิ้น 1. ความคาดหวังที่สูงเกินไป เมื่อคนหนึ่งต้องการมากกว่าอีกฝ่าย เช่น อยากให้ตอบกลับเร็ว ๆ อยากให้รับโทรศัพท์ทันที หรือต้องการให้อีกฝ่ายให้ความสำคัญตลอดเวลา ความคาดหวังเหล่านี้อาจกลายเป็นแรงกดดันต่อทั้งคู่ 2.

อ่านต่อ

บำบัดชีวิตคู่ด้วยจิตวิทยา เรียนรู้วิธีการแก้ไขความขัดแย้งในความสัมพันธ์

ช่วงแรกเริ่มของความรัก ทุกอย่างมักสวยงามและเต็มไปด้วยความเข้าใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความคาดหวังและความแตกต่างจะเริ่มเผยตัวตน จนบางครั้งกลายเป็นความขัดแย้งที่คอยบั่นทอนจิตใจ หลายคู่ได้พยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเองแล้ว แต่ยิ่งพยายามเท่าไรกลับยิ่งห่างกันมากขึ้น นี่อาจเป็นเพราะไม่มีใครสอนให้เรารู้ว่าความเข้าใจกันของชีวิตคู่ต้องเรียนรู้เหมือนกัน และนี่คือจุดที่การบำบัดคู่รัก หรือการเยียวยาความสัมพันธ์ด้วยจิตวิทยาด้านความรักเข้ามามีบทบาทสำคัญ ความรักยังไม่ถึงทางตัน ทำไมต้องบำบัดคู่รักด้วย คู่รักจำนวนมากมักคิดว่าการไปพบนักจิตวิทยาคือสัญญาณของความล้มเหลวในความสัมพันธ์ แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม เพราะการบำบัดทางจิตวิทยาจะช่วยให้เรามองเห็นต้นตอของความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความโกรธ ความน้อยใจ หรือความเงียบที่สะสมมานาน ซึ่งนักจิตวิทยามองว่าความสัมพันธ์ที่ดีไม่ได้เกิดจากการไม่มีปัญหา แต่เกิดจากการรู้จักพูด ฟัง และเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง การบำบัดคู่รักจึงเป็นกระบวนการที่ช่วยให้ทั้งสองคนกลับมาเห็นคุณค่าของกันและกันอีกครั้งนั่นเอง วิธีแก้ไขความขัดแย้งด้วยหลักจิตวิทยาด้านความรัก เมื่อใดที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ไม่ได้หมายความว่าเราจะรักกันน้อยลง แต่นี่คือโอกาสที่จะได้รู้จักหัวใจของกันและกันให้มากขึ้น หากเข้าใจและรับมือด้วยวิธีที่ถูกต้องดังนี้ 1. ต้องเข้าใจอารมณ์ที่อยู่เบื้องหลังคำพูด เบื้องหลังความโกรธมักซ่อนความเจ็บและความกลัวไว้เสมอ จิตวิทยาด้านความรักมองว่า “อารมณ์ที่ไม่ได้รับการเข้าใจ”

อ่านต่อ

วิธีฟื้นฟูสภาพจิตใจ หลังจากจบความสัมพันธ์ของคู่รัก

การจบความสัมพันธ์ของคู่รักไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ย่อมทิ้งบาดแผลไว้ในใจเสมอ บางคนรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบเงียบลงในทันที ความเศร้า ความคิดถึง และความรู้สึกสูญเสียอาจเข้ามาพร้อมกันจนแทบหายใจไม่ออก แต่ในความเจ็บปวดนั้น ยังมีหนทางในการเยียวยาและฟื้นฟูจิตใจให้กลับมาแข็งแรงได้ หากเรายอมรับและค่อย ๆ ก้าวผ่านด้วยความเข้าใจตนเอง ทำไมการจบความสัมพันธ์จึงกระทบต่อใจเราอย่างรุนแรง เมื่อคนที่เคยเป็นทั้งเพื่อน คู่คิด และที่พึ่งทางใจหายไปอย่างกะทันหัน สมองของเราจะรับรู้การสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต จิตวิทยาด้านความรักอธิบายว่า ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งจะสร้างสารเคมีในสมองที่ช่วยให้เรารู้สึกปลอดภัย เมื่อสายใยนั้นขาดลง ร่างกายและจิตใจจึงเกิดภาวะเครียด ทำให้บางคนรู้สึกว่างเปล่า เหงา หรือแม้แต่สิ้นหวัง แต่ในความเป็นจริง ความรู้สึกเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอ นี่คือกลไกปกติของสมองที่กำลังพยายามปรับตัวกับการสูญเสียอยู่นั่นเอง

อ่านต่อ

จิตวิทยาของความรัก: วิธีการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดี

ความรักเป็นสิ่งสวยงามที่ทำให้ชีวิตมีความหมายมากขึ้น แต่ในอีกมุมหนึ่งก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและซับซ้อนด้วย เพราะความรักจะมีแค่ความรู้สึกดีต่อกันอย่างเดียวไม่ได้ ยังต้องอาศัยความเข้าใจ การสื่อสาร และการดูแลกันอย่างต่อเนื่อง การเข้าใจหลักจิตวิทยาด้านความรักจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และรักษาความรักให้คงอยู่ได้อย่างยั่งยืน ทำไมเรามักเข้าใจผิดในความรัก หลายคนเชื่อว่าความรักจะคงอยู่ได้ด้วย “ความรู้สึก” เพียงอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริงนักจิตวิทยาพบว่า ความรักต้องอาศัยการดูแลและความเข้าใจกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ความหวานชื่นในช่วงแรก ซึ่งความเข้าใจผิดที่พบบ่อย เช่น เมื่อเข้าใจผิดแบบนี้บ่อย ๆ ความสัมพันธ์จึงเริ่มห่างเหิน ทั้ง ๆ ที่ยังรักกันอยู่แต่กลับไม่รู้วิธีสื่อสารอย่างถูกต้อง 10 วิธีสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีตามหลักจิตวิทยา หากเข้าใจจิตวิทยาด้านความรัก คู่รักจะรู้ว่าความสัมพันธ์ที่ดีไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง แต่เกิดจาก “ความเข้าใจ ความใส่ใจ และการดูแลจิตใจของกันและกัน” ต่อไปนี้คือ 10

อ่านต่อ

วิธีบำบัดความเครียดด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ แต่ถูกหลักจิตบำบัด

ความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนในทุกช่วงของชีวิต มีทั้งแบบรู้ตัวและบางครั้งก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันจากงาน ความสัมพันธ์ หรือสถานการณ์รอบตัวที่ควบคุมไม่ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ แต่หากปล่อยให้สะสมมากเกินไปก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตได้ เช่น เกิดเป็นความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า หรือมีปัญหาด้านอารมณ์ เราจึงอยากชวนคุณมาทำความเข้าใจการบำบัดความเครียดด้วยตัวเองที่ทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ถูกหลักจิตบำบัด (Psychotherapy) เพื่อให้คุณสามารถดูแลจิตใจตัวเองได้อย่างถูกวิธี เริ่มต้นด้วยการเข้าใจและยอมรับความเครียดของตัวเอง ก่อนจะเริ่มบำบัดความเครียด สิ่งสำคัญที่สุดคือ “การยอมรับ” ว่าตัวเองกำลังเผชิญกับความเครียดจริง ๆ เพราะคนจำนวนไม่น้อยเลือกจะหลีกเลี่ยงความรู้สึกเครียด หรือบอกตัวเองว่า “ไม่เป็นไร” ทั้งที่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความอึดอัดและความกดดัน ในแนวทางของจิตบำบัดแบบ Acceptance and Commitment

อ่านต่อ

สัญญาณบอกว่า คุณกำลังอยู่ในความสัมพันธ์ที่ดีจริงหรือเปล่า?

ในช่วงที่ความรักดูสวยงาม เราอาจไม่ทันสังเกตว่าความสัมพันธ์นั้น “ดีต่อใจ” จริง ๆ หรือเพียงแค่ “ทำให้รู้สึกดีชั่วคราว” หลายคนใช้เวลาหลายปีอยู่ในความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ความกลัว หรือการยอมเป็นทุกข์เพื่อรักษาสิ่งที่เรียกว่า “รัก” เอาไว้ โดยไม่เข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้กำลังบั่นทอนตัวเองอยู่ในมุมลึกของจิตใจ บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจผ่านมุมมองของจิตวิทยาด้านความรัก และแนวคิดที่นักจิตวิทยาใช้ในการประเมินว่า “ความสัมพันธ์ที่ดี” ควรมีลักษณะอย่างไร เพื่อให้คุณได้สำรวจหัวใจตัวเองอีกครั้งอย่างตรงไปตรงมา จิตวิทยาด้านความรัก คือ การเข้าใจหัวใจของมนุษย์ ความรักไม่ใช่แค่เรื่องของอารมณ์ แต่คือกระบวนการทางจิตใจที่ซับซ้อน จิตวิทยาด้านความรักมองว่าความสัมพันธ์ที่ดีเกิดจาก “ความสมดุล” ระหว่างความผูกพัน ความเป็นอิสระ และการเติบโตของแต่ละฝ่าย

อ่านต่อ

เมื่อความรักสร้างบาดแผล ปัญหาความสัมพันธ์ส่งผลโดยตรงต่อจิตใจ

ความรักคือประสบการณ์ที่ทำให้มนุษย์รู้สึกถึงความหมายของการมีชีวิตอยู่ ซึ่งเต็มไปด้วยความอบอุ่น การสนับสนุน และความมั่นคงทางใจ แต่ในขณะเดียวกัน หากความรักถูกแทรกแซงด้วยความไม่เข้าใจ การทะเลาะกับแฟนบ่อย ๆ หรือการขาดการสื่อสารที่ดี ความสัมพันธ์นั้นก็อาจกลายเป็นบาดแผลที่ฝังลึกในใจได้ บาดแผลเหล่านี้ไม่ได้ทำให้บอบช้ำเพียงช่วงสั้น ๆ เพราะสามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตและสุขภาพจิตในระยะยาวได้ ดังนั้นการเรียนรู้และทำความเข้าใจผลกระทบต่อจิตใจจากปัญหาความสัมพันธ์ จึงช่วยให้คุณรับมือได้อย่างมีสติ และหาทางฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมามีความหมายอีกครั้งได้ ความรักกับสุขภาพจิต ทำไมถึงส่งผลต่อกัน จิตวิทยาด้านความรักชี้ให้เห็นว่า ความสัมพันธ์คือหนึ่งในปัจจัยหลักที่หล่อเลี้ยงความมั่นคงทางอารมณ์ของมนุษย์ คนเรามักจะรู้สึกมั่นใจและมีพลังเมื่ออยู่ในความสัมพันธ์ที่ได้รับการสนับสนุนและมีความเข้าใจตรงกัน ความรักที่ดีจึงเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาตัวเอง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ในทางกลับกัน หากความสัมพันธ์เต็มไปด้วยความขัดแย้ง เช่น

อ่านต่อ

จิตบำบัดออนไลน์vs พบนักจิตวิทยาที่คลินิก รู้ข้อดีข้อเสียก่อนตัดสินใจ

ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพจิตมากขึ้น ทางเลือกในการเข้ารับการบำบัดก็หลากหลายขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นจิตบำบัดออนไลน์ที่สะดวกและเข้าถึงง่าย หรือการไปพบนักจิตวิทยาที่คลินิกจิตวิทยาแบบตัวต่อตัว หลายคนอาจลังเลว่าจะเลือกวิธีไหนดี บทความนี้ขอพาคุณมาทำความเข้าใจข้อดีข้อเสียของทั้ง 2 ทางเลือก เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น จิตบำบัดออนไลน์ ทางเลือกที่ทันสมัย ตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัล การใช้ชีวิตประจำวันในยุคดิจิทัลเต็มไปด้วยความเร่งรีบและมีข้อจำกัดเรื่องเวลา การเข้าถึงบริการบำบัดจิตใจผ่านช่องทางออนไลน์จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะสามารถรับบริการได้จากทุกที่และทุกเวลา ซึ่งมีข้อดีและข้อจำกัดบ้างดังนี้ 1. สะดวกและเข้าถึงง่าย เพียงมีอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ที่รองรับการสื่อสารได้ คุณก็สามารถพูดคุยกับนักจิตวิทยาได้โดยไม่ต้องเดินทางไปคลินิก 2. ยืดหยุ่นด้านเวลาและค่าใช้จ่าย หลายคลินิกมีแพ็กเกจจิตบำบัดออนไลน์ที่เลือกได้ตามงบประมาณ และอาจมีตารางนัดที่ยืดหยุ่นกว่าแบบออนไซต์ด้วย 3. ข้อจำกัดด้านการสื่อสารทางอารมณ์ อย่างไรก็ตามการพูดคุยผ่านหน้าจออาจทำให้การรับรู้ภาษากายหรือบรรยากาศโดยรวมลดลง ทำให้บางคนรู้สึกเชื่อมโยงกับนักจิตวิทยาได้น้อยกว่า พบนักจิตวิทยาที่คลินิก ประสบการณ์ตรงที่ไม่สามารถทดแทนได้ แม้ว่าออนไลน์จะสะดวก แต่การเข้ารับบริการที่คลินิกจิตวิทยาก็ยังคงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ตรงและบรรยากาศการบำบัดที่จริงจัง โดยมีจุดเด่นและข้อจำกัดคือ 1. การสื่อสารที่ลึกซึ้งและแม่นยำกว่า การพบเจอแบบเห็นหน้าจริงช่วยให้นักจิตวิทยาสังเกตได้ทั้งท่าทาง สีหน้า

อ่านต่อ

ความเครียดแก้ง่ายกว่าที่คิด เทคนิคจิตบำบัดที่นักจิตวิทยาแนะนำ

ความเครียดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคน แม้บางครั้งจะดูเหมือนเรื่องเล็กน้อย แต่หากปล่อยสะสมไว้ก็อาจทำให้ร่างกายและจิตใจอ่อนล้าจนยากจะแก้ไข นักจิตวิทยาจึงแนะนำให้ใช้จิตบำบัดและเทคนิคต่าง ๆ ที่คนทั่วไปสามารถทำด้วยตัวเองได้ เพื่อช่วยคลายความกังวลและฟื้นสมดุลทางใจได้ทันท่วงที 10 วิธีบำบัดความเครียดที่ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า “การบำบัดความเครียด” ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีซับซ้อน เพราะเพียงแค่ปรับพฤติกรรมและวิธีคิดเล็กน้อย หากทำต่อเนื่องก็จะช่วยให้จิตใจแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นผล มาลองดูว่าเทคนิคที่นักจิตวิทยาแนะนำมีอะไรบ้าง 1. ฝึกการหายใจอย่างมีสติ การหายใจใช้ควบคุมความเครียดได้ เทคนิคที่นิยมคือ “4-7-8” โดยให้หายใจเข้าลึก ๆ ยาว 4 วินาที ต่อด้วยการกลั้นหายใจ 7 วินาที และค่อย

อ่านต่อ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save