ช่วงเวลาที่เราถูกคนรักทำร้ายจิตใจคงเป็นความเจ็บปวดที่ทุกคนเข้าใจดี อาจเหมือนสิ่งสวยงามแตกสลายไป และไม่แน่ใจว่าจะกลับมาเหมือนเดิมได้หรือไม่ แต่เชื่อเถอะว่าความไว้วางใจของคู่รักไม่ได้หายไปตลอดกาล เพราะเป็นเหมือนกิ่งไม้ที่หักแต่ยังคงมีชีวิต

การให้อภัยจึงไม่ใช่แค่ทำใจให้ลืมสิ่งที่เกิดขึ้น หรือแสร้งว่าไม่รู้สึกอะไร แต่เป็นการเลือกที่จะไม่ปล่อยให้ความเจ็บปวดกลายเป็นกำแพงกั้นระหว่างเรากับคนที่เรารัก นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยฟื้นฟูให้ความสัมพันธ์ได้เติบโต และกลับมาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม1

การให้อภัยคืออะไร และทำไมจึงสำคัญในความสัมพันธ์

การให้อภัย คือ การเลือกที่จะปล่อยวางความโกรธแค้นและความขุ่นเคืองใจที่มีต่อคนที่ทำร้ายเรา โดยไม่ได้หมายความว่าเราต้องลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือยอมรับพฤติกรรมเหล่านั้น การให้อภัยเป็นเสมือนการปลดปล่อยตัวเองจากโซ่ตรวนแห่งความเจ็บปวด งานวิจัยทางจิตวิทยาหลายชิ้นชี้ว่า การให้อภัยมีผลดีต่อสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก เมื่อเราให้อภัยได้ จิตใจจะสงบลง ความเครียดจะลดลง และสามารถมองเห็นข้อดีของคนรักได้ชัดเจนขึ้น ดังนั้น การให้อภัยจึงเป็นการกระทำที่คุ้มค่าในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีอย่างยั่งยืน

กระบวนการให้อภัยที่มีประสิทธิภาพ

โดยส่วนใหญ่เราให้อภัยทันทีไม่ได้ ต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ที่ช่วยให้เราปล่อยวางความเจ็บปวดได้อย่างสมบูรณ์ และเปิดโอกาสให้ความไว้วางใจในความสัมพันธ์ค่อย ๆ งอกงามขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งทำได้ดังนี้

1. การยอมรับและเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด

ขั้นตอนแรกของการให้อภัยคือการยอมรับว่าเราได้รับความเจ็บปวดจริง ๆ การปฏิเสธหรือข้ามผ่านความรู้สึกเจ็บปวดจะทำให้กระบวนการให้อภัยไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เราต้องให้เวลากับตัวเองเพื่อรู้สึกเสียใจ โกรธ หรือผิดหวัง หนึ่งในวิธีที่ทำได้คือ การเขียนบันทึกความรู้สึกหรือการพูดคุยกับคนที่เราไว้ใจ และสามารถช่วยให้เราประมวลผลอารมณ์ได้ดีขึ้น ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือแม้กระทั่งหลายเดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเหตุการณ์

2. การเข้าใจมุมมองของอีกฝ่าย

เมื่อเราจัดการกับความเจ็บปวดของตัวเองได้ระดับหนึ่งแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการพยายามเข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงทำในสิ่งที่ทำลายความไว้วางใจ การเข้าใจไม่ได้หมายความว่าเรายกโทษให้ แต่เป็นการมองเห็นภาพรวมของสถานการณ์ บางครั้งผู้ที่ทำผิดอาจกำลังประสบปัญหาส่วนตัว มีความกดดัน หรือขาดทักษะในการสื่อสารที่เหมาะสม การเข้าใจสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเลือกที่จะให้อภัยได้ง่ายขึ้น

3. การตัดสินใจที่จะให้อภัย

การให้อภัยเป็นทางเลือก และไม่ใช่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ หากแต่เราต้องตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะปล่อยวางความโกรธอย่างไร การตัดสินใจแบบนี้อาจต้องมีกระบวนการทำซ้ำหลายครั้งหากความรู้สึกเจ็บปวดย้อนกลับมาในจิตใจอีก พูดอีกอย่างคือ การให้อภัยต้องมีการฝึกฝน ไม่สามารถเกิดขึ้นในทันทีได้ บางวันเราอาจรู้สึกว่าให้อภัยได้แล้ว แต่บางวันความโกรธในเรื่องเดิมก็อาจกลับมาอีก นี่เป็นเรื่องปกติและเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเยียวยา

อุปสรรคในการให้อภัยและวิธีเอาชนะ

แม้ว่าเราจะพยายามให้อภัยเพียงใด แต่การถูกกระทำแย่ ๆ จากคนที่เรารัก อาจเป็นเรื่องฝังใจจนให้อภัยได้ยาก บางครั้งจึงกลายเป็นอุปสรรคจนบั่นทอนพลังใจ ดังนั้น ต้องรู้เท่าทันความคิดที่เป็นอุปสรรคเหล่านี้ และต้องมีวิธีจัดการเพื่อปล่อยวาง

1. ความรู้สึกกลัวที่จะถูกทำร้ายอีกครั้ง

หนึ่งในอุปสรรคใหญ่ที่สุดของการให้อภัยคือ ความกลัวว่าจะถูกทำร้ายอีกครั้ง ความกลัวนี้เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ การจะเอาชนะความกลัวได้ต้องอาศัยเวลา และมักลดลงหากพฤติกรรมอีกฝ่ายเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจริง ๆ ดังนั้น การสร้างความไว้วางใจขึ้นมาใหม่จึงเป็นกระบวนการที่เปรียบเสมือนการค่อย ๆ ก้าวขึ้นบันไดทีละขั้น โดยเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน เมื่ออีกฝ่ายแสดงให้เห็นความสม่ำเสมอในการรักษาคำพูด หรือการกระทำ ความกลัวก็จะค่อย ๆ ลดลง

2. ความภาคภูมิใจ และความต้องการจะเอาชนะ

บางคนอาจรู้สึกว่าการให้อภัยคือการยอมแพ้ หรือการแสดงความอ่อนแอ นั่นเป็นความคิดที่เปรียบเสมือนการย้ำแผลเดิมให้ยิ่งช้ำขึ้นไปอีก แท้จริงแล้วการให้อภัยต้องใช้ความกล้าหาญและความแข็งแกร่งทางใจเป็นอย่างมาก ซึ่งการปล่อยวางได้เพื่อความสุขระยะยาวของความสัมพันธ์ หมายถึงการตัดสินใจที่ฉลาดและเป็นผู้ใหญ่มากกว่า

3. ความกดดันจากสังคมและคนรอบข้าง

บางครั้งคนรอบข้างอาจไม่เข้าใจการให้อภัยของเราว่าทำไมต้องอดทน โดยเฉพาะในกรณีที่ปัญหาดูร้ายแรง เราต้องจำไว้ว่า การให้อภัยเป็นการตัดสินใจส่วนตัวที่เราต้องรับผิดชอบ จงอย่าให้ความคาดหวังจากคนรอบข้างกลายมาเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการให้อภัยของเรา หากรู้สึกสับสนในการตัดสินใจ การเลือกขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหรือนักจิตบำบัด ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อาจช่วยให้เรามีมุมมองที่เป็นกลาง และมีวิธีในการจัดการกับความรู้สึกที่ซับซ้อนได้ดีกว่าการยึดติดกับความคาดหวังของคนรอบข้าง

สัญญาณที่บอกว่าความสัมพันธ์กำลังฟื้นฟู

การฟื้นฟูความสัมพันธ์หลังการให้อภัยจะมีสัญญาณที่เราสามารถสังเกตได้ เช่น

1. การที่เราสามารถคุยเรื่องอื่นได้โดยไม่ต้องกลับไปพูดถึงปัญหาเก่า
2. ความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้นลดลง
3. การหัวเราะร่วมกันมากขึ้น
3. การแสดงความรักที่เป็นธรรมชาติ
4. รู้สึกว่าเราสามารถไว้ใจอีกฝ่ายในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้

ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณที่ดี บ่งบอกว่าความสัมพันธ์กำลังเดินทางไปในทิศทางที่ถูกต้อง และหากการฟื้นฟูเป็นไปได้ดี คู่รักจะเริ่มรู้สึกอยากรักษาความสัมพันธ์นี้เอาไว้ หรือสามารถตั้งเป้าหมายร่วมกันได้อีกครั้ง และที่สำคัญที่สุดคือ การรู้สึกว่าเราได้เรียนรู้และเติบโตจากปัญหาที่ผ่านมาแล้ว ทั้งหมดนี้คือสัญญาณว่าการฟื้นฟูกำลังเกิดขึ้นจริง

บทสรุป

การให้อภัยในความสัมพันธ์ต้องใช้ความอดทน ความเข้าใจ และความมุ่งมั่นจากทั้งสองฝ่าย ถึงแม้จะดูเป็นเรื่องยาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ ความสัมพันธ์และความไว้วางใจจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม การให้อภัยจึงไม่ได้หมายความว่าเราต้องลืมหรือยอมรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แต่เป็นการเลือกที่จะปลดปล่อยตัวเองและเปิดโอกาสให้ความรักได้เติบโตอีกครั้ง และหากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาในความสัมพันธ์หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการให้อภัยและการฟื้นฟูความไว้วางใจ Happy Me Clinic พร้อมให้การช่วยเหลือด้วยทีมนักจิตบำบัดที่เชี่ยวชาญ เราเชื่อมั่นว่าทุกความสัมพันธ์มีคุณค่าและสมควรได้รับโอกาสในการเยียวยา