Happy Me Clinic

นอนไม่หลับ สมองไม่หยุดคิด | สัญญาณเตือนของความเครียดเรื้อรัง

นอนไม่หลับ สมองไม่หยุดคิด อาจเป็นสัญญาณของความเครียดเรื้อรัง ค้นหาสาเหตุ อันตราย และวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง ข้อมูลดี ๆ จาก HAPPY ME CLINIC

โรควิตกกังวล อาการและวิธีรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ

โรควิตกกังวล อาการและวิธีรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ความวิตกกังวลเป็นปฏิกิริยาทางจิตใจที่เกิดขึ้นเมื่อเรารู้สึกกังวล หรือกลัวสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องเจอในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม หากเกิดขึ้นบ่อยจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต อาจเข้าข่ายโรควิตกกังวล อาการนี้เป็นภาวะที่ต้องได้รับการวินิจฉัยและดูแลรักษาอย่างเหมาะสม โรควิตกกังวล อาการเป็นแบบไหน? โรควิตกกังวล อาการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ1. อาการทางจิตใจ⦁ รู้สึกกังวลเกินกว่าเหตุ หรือคิดวนซ้ำเกี่ยวกับปัญหาต่าง ๆ⦁ หวาดกลัวหรือวิตกเกี่ยวกับอนาคตอยู่ตลอดเวลา⦁ สมาธิสั้นลง หงุดหงิดง่ายขึ้น 2. อาการทางร่างกาย ⦁ หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกง่าย⦁ กล้ามเนื้อตึงเครียด หรือปวดเมื่อยโดยไม่ทราบสาเหตุ⦁ นอนไม่หลับ นอนหลับยาก หรือหลับ ๆ ตื่น ๆ 3. อาการทางพฤติกรรม⦁ หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เครียด⦁ ไม่กล้าตัดสินใจ หรือมีความลังเลมากกว่าปกติ⦁ พยายามควบคุมทุกอย่างรอบตัว เพื่อให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัย อันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ หากปล่อยให้โรควิตกกังวล อาการรุนแรงขึ้น แม้ว่าโรควิตกกังวล อาการที่เกิดขึ้นจะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตในระยะยาวได้1. กระทบต่อสุขภาพร่างกาย อาการวิตกกังวลเรื้อรังอาจทำให้เกิดความเครียดสะสม ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันลดลง และเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง อย่างโรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ 2. กระทบต่อความสัมพันธ์ คนที่วิตกกังวลมากเกินไปอาจหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม หรือบังคับคนใกล้ตัวให้ทำตามที่ตนเองต้องการ จึงทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างอยู่เสมอ 3. กระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงาน อาการวิตกกังวลอาจทำให้สมาธิและความสามารถในการตัดสินใจลดลง จึงส่งผลต่อการทำงาน หรือหากยังศึกษาอยู่ก็จะทำให้เรียนไม่รู้เรื่องไปด้วย วิธีรักษาโรควิตกกังวล อาการที่รบกวนการใช้ชีวิต หากคุณรู้สึกว่าตนเองเข้าข่ายเป็นโรควิตกกังวล อาการที่เกิดขึ้นก็กำลังส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ควรรีบดูแลสุขภาพจิตตนเอง โดยเริ่มต้นจากแนวทางเหล่านี้ที่ช่วยลดอาการวิตกกังวลได้ 1. ฝึกการหายใจและผ่อนคลาย การหายใจลึก ๆ และช้า ๆ สามารถช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจและทำให้ร่างกายผ่อนคลายได้ ให้ลองใช้เทคนิคการหายใจ 4-7-8 โดยหมายถึง “หายใจเข้า-กลั้นหายใจ-หายใจออก” เป็นวินาทีต่อเนื่องกัน จะช่วยลดความวิตกกังวลในช่วงเวลาที่รู้สึกเครียดลงได้ 2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายเป็นเหมือนยาวิเศษ ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริงเลย เป็นวิธีที่ดีในการลดความเครียดและช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยวันละ 30 นาที อย่างการเดินเร็ว วิ่ง หรือโยคะ 3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนน้อยเกินไปสามารถทำให้โรควิตกกังวล อาการรุนแรงขึ้นได้ ทั้งอารมณ์แปรปรวน และกังวลมากขึ้นอย่างรุนแรง ดังนั้นควรจัดตารางเวลานอนอย่างมีวินัย และงดใช้โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนอน 4. ฝึกสติและสมาธิ การทำสมาธิจะช่วยให้จิตใจอยู่กับปัจจุบันและลดความคิดฟุ้งซ่าน ลองเริ่มต้นจากการฝึกนั่งสมาธิวันละ 5-10 นาที และค่อย ๆ เพิ่มระยะเวลาไปเรื่อย ๆ 5. ทำกิจกรรมที่รู้สึกดี การใช้เวลากับสิ่งที่ชอบจะสามารถช่วยลดความวิตกกังวล และทำให้รู้สึกดีขึ้น จิตใจจึงผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น 6. หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์อาจกระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวลได้ในผู้ป่วยบางคน ลองลดปริมาณลงแล้วเลือกดื่มชาที่มีคาเฟอีนน้อยกว่าแทน 7. พูดคุยกับคนที่ไว้ใจได้ การแบ่งปันความรู้สึกกับเพื่อนสนิทหรือครอบครัว สามารถช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ เพราะบางครั้งแค่ได้ระบาย และได้รับกำลังใจจากคนใกล้ตัว ก็ช่วยลดความกังวลได้มาก 8. ปรึกษานักจิตวิทยา นักจิตบำบัด เพื่อหาแนวทางและดูแลจัดการอาการวิตกกังวล หากโรควิตกกังวล อาการรุนแรงมากจนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน การปรึกษานักจิตบำบัดสามารถช่วยให้เข้าใจต้นตอของปัญหา และเลือกวิธีจัดการกับความวิตกกังวลได้อย่างถูกต้องและตรงจุด ทำให้สามารถควบคุมและบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรควิตกกังวล อาการทางจิตที่พบได้บ่อย และส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้หากไม่รักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการปรับพฤติกรรมและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม หากคุณกำลังเผชิญกับอาการวิตกกังวลอย่าลืมเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมเพื่อดูแลสุขภาพจิตของคุณให้ดีขึ้น  ต้องการรับคำปรึกษาที่ถูกต้อง ให้ HAPPY ME CLINIC ช่วยดูแลคุณ โรควิตกกังวลจะไม่น่ากังวล หากได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่เข้าถึงง่าย อย่างที่ HAPPY ME CLINIC หรือคลินิกสุขภาพจิตใกล้คุณ เราพร้อมช่วยคุณดูแลสุขภาพจิตให้กลับมาสดใส จองคิวปรึกษาได้เลยวันนี้ เพราะสุขภาพจิตที่ดี เริ่มต้นจากการดูแลตัวเอง