ในความสัมพันธ์คู่รักที่ยาวนาน หลายครั้งที่พ่อแม่ต่างคนต่างมีพื้นฐานชีวิตที่แตกต่างกัน ทั้งเรื่องการเลี้ยงดูจากครอบครัวเดิม ค่านิยม หรือแม้แต่สไตล์การใช้ชีวิต ซึ่งพอถึงเวลาต้องเลี้ยงลูกด้วยกัน สิ่งเหล่านี้กลายเป็น “จุดบาดเจ็บ” ที่ทำให้หลายครอบครัวต้องเจอกับความขัดแย้งโดยไม่ทันตั้งตัว บางทีพ่อแม่ก็รู้สึกเหมือน “พูดกันคนละภาษา” หรือมี “กรอบความคิด” ที่ต่างกันจนยากจะประสาน

ยิ่งในยุคที่ข้อมูลบนโซเชียลมีเดียถาโถมเข้ามาเป็นร้อยๆ วิธีเลี้ยงลูก แนวทางการสอน รวมถึงคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสำนัก ทำให้หลายคู่พ่อแม่รู้สึกสับสนและไม่แน่ใจว่าควรจะทำอย่างไรดีกับข้อมูลที่อ่านมา สุดท้ายเรื่องเล็กๆ ก็กลายเป็นประเด็นทะเลาะรุนแรง ที่ส่งผลกระทบถึงความสัมพันธ์และบรรยากาศในบ้าน

หากปัญหานี้ไม่ได้รับการพูดคุยและจัดการอย่างจริงจัง จะทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักสั่นคลอน และส่งผลต่อสภาพจิตใจของลูกที่อยู่ตรงกลาง เพราะเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันเกี่ยวกับวิธีเลี้ยงดูอาจทำให้เด็กเกิดความสับสน รู้สึกไม่มั่นคง และมีปัญหาด้านอารมณ์ในระยะยาว บทความนี้ช่วยแนะนำ 5 วิธีเปิดใจพูดคุยและสร้างทีมเลี้ยงลูกที่ลงตัว

  1. พูดคุยและตั้งกติการ่วมกันโดยเปิดใจ
    เริ่มจากการพูดคุยกันอย่างจริงใจถึงสิ่งที่แต่ละฝ่ายคิดและเชื่อเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก โดยไม่ตัดสินหรือโจมตีกัน ตั้งกติการ่วมกันว่าจะลองทำอะไรอย่างไรบ้าง และให้โอกาสกันและกันในการปรับตัว
  2. เรียนรู้และเคารพพื้นฐานที่ต่างกัน
    เข้าใจว่าความแตกต่างไม่ได้ผิด แต่เป็นสิ่งที่เสริมกันได้ พยายามเรียนรู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงคิดแบบนั้น พื้นฐานชีวิตของแต่ละคนส่งผลอย่างไรต่อวิธีเลี้ยงลูกของเขา
  3. กรองข้อมูลบนโซเชียลมีเดียอย่างมีสติ
    เลือกติดตามแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและเหมาะสมกับครอบครัวของเรา ไม่ต้องเชื่อทุกอย่างที่เห็นบนโลกออนไลน์ แบ่งปันและพูดคุยกันถึงสิ่งที่เรียนรู้แทนที่จะปล่อยให้ข้อมูลเหล่านั้นกลายเป็นความกดดัน
  4. สร้างความเป็นทีมที่แข็งแรง
    จำไว้ว่าทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือ “อยากให้ลูกเติบโตอย่างมีความสุข” จงสนับสนุนกันและช่วยกันแก้ไขปัญหาแทนที่จะแข่งกันว่าใครถูกใครผิด
  5. ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเมื่อจำเป็น
    ถ้ารู้สึกว่าแก้ไขด้วยตัวเองลำบาก ลองปรึกษานักบำบัดครอบครัวหรือนักจิตวิทยา ที่จะช่วยให้คำแนะนำและวิธีสื่อสารที่เหมาะสมมากขึ้น

ความต่างคือจุดเริ่มต้นของการเติบโตถ้าเราเปิดใจรับฟัง

พ่อแม่ที่มาจากพื้นฐานต่างกันนั้นแท้จริงแล้วมีศักยภาพในการสร้างครอบครัวที่เข้มแข็งและอบอุ่นได้ถ้าเรียนรู้ที่จะเปิดใจรับฟังและปรับตัวไปด้วยกัน อย่าปล่อยให้ความแตกต่างกลายเป็นกำแพง แต่ให้เป็นสะพานเชื่อมที่ช่วยให้ทุกคนเข้าใจกันและกันมากขึ้น รวมทั้งจัดการกับข้อมูลในโลกโซเชียลให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้ข้อมูลเหล่านั้นกลายเป็นภาระหรือสาเหตุให้เกิดความขัดแย้ง

ในครอบครัวถ้าคุณกำลังรู้สึกว่าความแตกต่างในครอบครัวเริ่มสร้างความตึงเครียดหรือทำให้สื่อสารกันลำบาก ลองพูดคุยและขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอย่าง HappyMe Clinic ที่พร้อมช่วยคุณสร้างครอบครัวที่แข็งแรงและอบอุ่นขึ้น