Happy Me Clinic

โรคแพนิคคืออะไร เช็ก 5 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณอาจเป็นโรคแพนิค

โรคแพนิคคืออะไร เกิดจากความกลัวไปเองหรือเปล่า? หากตอบในทางการแพทย์โรคแพนิค (Panic Disorder) คือภาวะทางจิตใจที่ส่งผลให้เกิดอาการตื่นตระหนกแบบฉับพลันโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน อาการนี้เมื่อเกิดขึ้นมักไม่สามารถควบคุมได้ และสร้างความกังวลให้ผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง เพราะกลัวว่าจะเกิดขึ้นอีก ทำให้อาการนี้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และแม้ว่าอาการแพนิคส่วนมากจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ก็อาจนำไปสู่ความเครียดเรื้อรัง ความหวาดกลัว หรือกลายเป็นภาวะซึมเศร้าได้

5 สัญญาณเหล่านี้ อาจบ่งบอกว่าคุณเป็นโรคแพนิค

โรคแพนิคไม่ได้เป็นเพียงความกังวลหรือความเครียดทั่วไป สามารถเกิดขึ้นได้อย่างฉับพลันและรุนแรงจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งหลายคนอาจไม่ทันสังเกตว่าตนเองกำลังเผชิญกับภาวะนี้ เพราะคิดว่าเป็นเพียงความเครียดสะสม หรือปฏิกิริยาทางร่างกายชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม หากคุณพบว่าตัวเองมีอาการแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ และรบกวนชีวิตประจำวัน ต้องรีบมาเรียนรู้ว่า สัญญาณของโรคแพนิคคืออะไร เพื่อที่คุณจะสามารถรับมือและดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม

1. อาการตื่นตระหนกอย่างรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุ

อาการแพนิคมักเกิดขึ้นกะทันหันโดยไม่มีปัจจัยกระตุ้นที่ชัดเจน เช่น หัวใจเต้นแรง เหงื่อออก หน้ามืด คล้ายกับร่างกายกำลังเผชิญอันตราย ทั้งที่ไม่ได้เกิดสถานการณ์อันตรายจริง ๆ 

คำแนะนำจากนักจิตวิทยา: ลองสังเกตตัวเองว่า อาการเกิดขึ้นในสถานการณ์ใด มีอะไรเป็นตัวกระตุ้น จากนั้นให้จดบันทึกอาการ ก็อาจจะช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุได้ดีขึ้น

2. ความรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ หรือหายใจไม่อิ่ม

หลายคนที่มีอาการแพนิคมักรู้สึกเหมือนถูกกดทับที่หน้าอก หายใจติดขัด จนทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะหรือคล้ายกับจะเป็นลม

คำแนะนำจากนักจิตวิทยา: ฝึกการหายใจช้า ๆ และลึก ๆ (Deep Breathing) โดยหายใจเข้าทางจมูก นับ 1-4 ค้างไว้ แล้วหายใจออกทางปาก นับ 1-6 วิธีนี้จะช่วยควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ และลดอาการตื่นตระหนกได้

3. ความกลัวตาย หรือกลัวสูญเสียการควบคุม

ขณะเกิดอาการแพนิค หลายคนอาจรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย หรือสูญเสียการควบคุมตนเอง ซึ่งยิ่งทำให้ความตื่นตระหนกรุนแรงขึ้น

คำแนะนำจากนักจิตวิทยา: ใช้วิธีดึงสติกลับมาอยู่กับตัวเอง (Grounding Techniques) เช่น การสัมผัสสิ่งของรอบตัว พูดชื่อสีที่เห็นอยู่ หรือจดจ่อกับสิ่งที่สัมผัส วิธีเหล่านี้จะช่วยให้สมองกลับมาอยู่กับปัจจุบัน และลดความกลัวที่เกิดขึ้น

4. อาการเกิดขึ้นซ้ำ ๆ และเริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน

หากอาการแพนิคเกิดขึ้นบ่อยจนคุณเริ่มหลีกเลี่ยงสถานที่บางแห่ง หรืองดทำกิจกรรมที่เคยชอบเพราะกลัวว่าอาการจะแสดงออกมา นี่อาจเป็นสัญญาณว่าอาการเริ่มรุนแรงขึ้น

คำแนะนำจากนักจิตวิทยา: ค่อย ๆ ท้าทายตัวเองด้วยการเผชิญกับสถานการณ์ที่เคยหลีกเลี่ยง พร้อมใช้เทคนิคการหายใจหรือการผ่อนคลายกล้ามเนื้อเพื่อช่วยลดอาการตื่นตระหนก

5. ร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ไวต่อความเครียดมากผิดปกติ

แม้เพียงความกังวลเล็กน้อยก็อาจทำให้หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออก หรือเกิดอาการแพนิคขึ้นได้ง่าย ๆ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากระบบประสาทอัตโนมัติที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นมากเกินไป
คำแนะนำจากนักจิตวิทยา: ฝึกสมาธิ (Mindfulness) หรือทำกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ เช่น การเดินเล่น ฟังเพลงสบาย ๆ หรือทำงานศิลปะเพื่อช่วยลดการตอบสนองต่อความเครียด

วิธีรับมือเมื่อเกิดอาการแพนิค ที่นักจิตวิทยาแนะนำ

เมื่อได้เรียนรู้แล้วว่าโรคแพนิคคืออะไร หากอาการเกิดขึ้นให้ลองใช้วิธีต่อไปนี้เพื่อช่วยให้ร่างกายและจิตใจกลับมาอยู่ในภาวะสมดุล

1. ใช้เทคนิคการหายใจแบบ 4-7-8

หายใจเข้าทางจมูก 4 วินาที กลั้นหายใจ 7 วินาที และหายใจออกทางปาก 8 วินาที วิธีนี้ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและลดอัตราการเต้นของหัวใจได้

2. ฝึกเทคนิคการดึงจิตกลับมาสู่ปัจจุบัน (Grounding Techniques)

ให้คุณเริ่มต้นด้วย

⦁ มองหาสิ่งของ 5 อย่างที่เห็นได้ชัด
⦁ พูดสีที่ต่างกัน 4 สี
⦁ สัมผัสสิ่งของ 3 อย่าง
⦁ ฟังเสียงรอบตัว 2 เสียง
⦁ ชิมรสชาติ 1 รส
 

วิธีนี้จะช่วยให้สมองเบี่ยงเบนจากอาการแพนิค และดึงคุณให้กลับมาอยู่กับปัจจุบันได้

3. หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ จะมีสารกระตุ้นระบบประสาทที่ทำให้เกิดอาการแพนิคได้ง่ายขึ้น การลดหรือเลิกเครื่องดื่มเหล่านี้ อาจช่วยลดความถี่ของอาการแพนิคได้

4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายจะช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียด และกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินซึ่งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และลดโอกาสเกิดอาการแพนิคได้แบบระยะยาว

5. ปรึกษานักจิตวิทยา

หากอาการแพนิคส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน หรือเกิดขึ้นถี่จนไม่สามารถรับมือได้ด้วยตัวเอง การปรึกษานักจิตวิทยาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเพื่อขอรับคำแนะนำในการรักษา เพราะจะช่วยวิเคราะห์สาเหตุของอาการได้ตรงจุด และสามารถแนะนำวิธีการรับมือที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้

อย่าปล่อยให้โรคแพนิคกระทบชีวิตของคุณ

อาการแพนิคอาจดูน่ากลัว แต่สามารถจัดการได้หากเข้าใจว่าโรคแพนิคคืออะไร จากนั้นให้เรียนรู้วิธีรับมืออย่างถูกต้อง แต่หากอาการยังคงเกิดขึ้นบ่อยหรือรุนแรงขึ้น การปรึกษานักจิตวิทยาที่ Happy Me Clinic เพื่อขอรับคำแนะนำและแนวทางการดูแลสุขภาพจิตที่เหมาะสมกับคุณ เป็นทางเลือกที่จะช่วยให้คุณกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้