Happy Me Clinic


ในยุคที่การทำงานเต็มไปด้วยความกดดันและความคาดหวังที่สูงขึ้น ปัญหาสุขภาพจิตจากการทำงานจึงเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในหลายองค์กร ในปัจจุบันบทบาทของนักจิตวิทยาและนักจิตบำบัดในที่ทำงานจึงกำลังได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากเป็นแนวทางที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตของพนักงานให้สามารถปฏิบัติงานได้ด้วยสภาวะอารมณ์ปกติ สุดท้ายก็จะส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อภาพรวมขององค์กร

ปัญหาสุขภาพจิตจากการทำงาน มีสาเหตุจากอะไรได้บ้าง

ปัญหาสุขภาพจิตจากการทำงานสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ดังนี้

ความกดดันในหน้าที่การงาน
การตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย การประเมินผลงานที่เข้มงวด และความกลัวที่จะล้มเหลวในอาชีพ อาจสร้างแรงกดดันให้กับพนักงานได้ หากพวกเขารู้สึกว่าต้องแข่งขันอย่างหนัก หรือต้องทุ่มเททำงานให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ความเครียดจากสาเหตุนี้ก็อาจสะสมจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตได้

ปริมาณงานที่มากเกินไป
การที่พนักงานต้องทำงานเกินจำนวนชั่วโมงที่กำหนด หรือไม่มีสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ก็อาจทำให้เกิดความเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกาย จิตใจ และความสัมพันธ์ในครอบครัว ซึ่งนำไปสู่ภาวะหมดไฟในการทำงาน และเลือกที่จะลาออกไปในที่สุด

ความสัมพันธ์ในที่ทำงาน
ปัญหาความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชา รวมถึงบรรยากาศการทำงานที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด อาจทำให้พนักงานรู้สึกอึดอัดหรือไม่อยากมาทำงาน หรือมาทำงานแต่ก็เลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับบุคคลที่มีปัญหาด้วย

ความไม่แน่นอนขององค์กร
ปัญหาที่เกิดจากตัวองค์กรเองก็มีผลต่อสภาวะจิตใจของพนักงาน เช่น การปรับลดจำนวนพนักงาน การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร หรือสถานการณ์ทางการเงินที่ไม่มั่นคง ปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้พนักงานรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเพิ่มขึ้น

นักจิตวิทยาจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร

แน่นอนว่า นักจิตวิทยาและนักจิตบำบัดมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดความเครียดและเสริมสร้างสุขภาพจิตของพนักงาน โดยวิธีการที่พวกเขาสามารถช่วยเหลือได้มีดังนี้

⦁ การให้คำปรึกษาและรักษาแบบจิตบำบัดรายบุคคล
นักจิตวิทยาสามารถทำงานร่วมกับพนักงานที่กำลังเผชิญปัญหาสุขภาพจิต โดยการรับฟัง วิเคราะห์ปัญหา และช่วยให้พนักงานเข้าใจต้นตอของปัญหา รวมถึงแนะนำวิธีการจัดการที่เหมาะสม เช่น การปรับเปลี่ยนมุมมอง การฝึกทักษะเพื่อจัดการอารมณ์ หรือการสอนเทคนิคการผ่อนคลายจิตใจ เป็นต้น

⦁ พัฒนาโปรแกรมการดูแลสุขภาพจิตในองค์กร
นักจิตวิทยาสามารถออกแบบโปรแกรมสุขภาพจิต เช่น การจัดกิจกรรมสร้างแรงจูงใจ เวิร์กช็อปการจัดการทางอารมณ์ หรือการฝึกทักษะการจัดการความเครียด ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจให้กับพนักงานได้ในระยะยาว

⦁ การให้การอบรมผู้บริหาร
ผู้บริหารที่มีความเข้าใจในเรื่องสุขภาพจิตของพนักงาน ย่อมสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและทำให้พนักงานรู้สึกมั่นคงในอาชีพได้ ดังนั้นการจัดอบรมผู้บริหารในเรื่องนี้ จะช่วยให้พวกเขามองเห็นปัญหาและรู้จักวิธีช่วยเหลือพนักงานอย่างเหมาะสม

⦁ การวิเคราะห์และติดตามข้อมูลสุขภาพจิต
นักจิตวิทยาสามารถใช้แบบสอบถามหรือการสำรวจเพื่อประเมินสุขภาพจิตพนักงานในองค์กร และนำข้อมูลที่ได้มาวางแผน หรือปรับปรุงแนวทางการจัดการที่เหมาะสมได้อย่างถูกต้อง

คุ้มค่าไหมถ้าองค์กรของคุณมีนักจิตวิทยา แล้วจะจ้างประจำ หรือใช้ที่ปรึกษาจากคลินิกสุขภาพจิตดี

คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ “องค์กรควรจ้างนักจิตวิทยาให้อยู่ประจำ หรือเลือกใช้บริการจากคลินิกสุขภาพจิตดี?” การตัดสินใจในเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณขององค์กรเป็นหลัก โดยสามารถเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียได้ดังนี้

การมีนักจิตวิทยาประจำองค์กร

ข้อดี พนักงานสามารถเข้าถึงบริการได้ทันทีและต่อเนื่องโดยไม่ต้องเดินทาง หรือรอคิวนัดหมาย และยังช่วยให้นักจิตวิทยาเข้าใจวัฒนธรรมและปัญหาเฉพาะขององค์กรได้ดีขึ้น
ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงในการจ้างงานระยะยาว และหากองค์กรมีพนักงานไม่มาก การที่มีนักจิตวิทยาประจำอาจไม่ได้ถูกใช้งานอย่างคุ้มค่า

การจ้างที่ปรึกษาภายนอก จากคลินิกสุขภาพจิต

ข้อดี มีความยืดหยุ่นสูง สามารถเลือกผู้เชี่ยวชาญที่เหมาะสมกับปัญหาเฉพาะได้ และค่าใช้จ่ายต่ำกว่าการจ้างนักจิตวิทยาประจำ นอกจากนี้ยังมีโอกาสเข้าถึงเทคนิคและโปรแกรมรักษาใหม่ ๆ จากคลินิกสุขภาพจิตภายนอกได้
ข้อเสีย การนัดหมายอาจใช้เวลามากขึ้น และไม่สามารถตอบสนองปัญหาเร่งด่วนได้ในทันที

จากการเปรียบเทียบจะเห็นได้ว่า การจ้างคลินิกสุขภาพจิตเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเหมาะสมสำหรับองค์กรขนาดเล็กถึงกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากองค์กรต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย และยังต้องการได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์หลากหลาย แต่หากเป็นองค์กรขนาดใหญ่การจ้างนักจิตบำบัดมาอยู่ประจำองค์กร ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

จากข้อมูลนี้จะเห็นได้เลยว่า ในภาพรวมนั้นการส่งเสริมสุขภาพจิตของพนักงานไม่เพียงแต่ช่วยลดปัญหาการลาออกหรือขาดงาน แต่ยังช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานและความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรได้ ดั้งนั้นการลงทุนด้านนักจิตวิทยาจึงเป็นความคุ้มค่า และเป็นทางเลือกที่ควรพิจารณาอย่างจริงจังเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้องค์กร

อาการและสาเหตุของ PTSD คืออะไร ปัญหาสุขภาพจิตที่คุณควรระวัง

PTSD คืออะไร เช็กอาการที่ควรระวัง และแนวทางการรักษาด้วยจิตบำบัดที่สามารถช่วยบรรเทาภาวะนี้ได้ ข้อมูลสำคัญเพื่อให้คุณสามารถดูแลสุขภาพจิตได้อย่างเหมาะสม

Read More

โรคซึมเศร้า vs โรคแพนิค ความแตกต่างที่ต้องแยกให้ออก

โรคซึมเศร้า vs โรคแพนิคคืออะไร ทำความเข้าใจความแตกต่าง อาการ และวิธีสังเกตเบื้องต้น เพื่อดูแลสุขภาพจิตของคุณให้ดีขึ้นได้

Read More

เครียดแค่ไหนก็เอาอยู่ 5 วิธีจัดการความเครียดด้วยตัวเองที่นักจิตวิทยาแนะนำ

วิธีจัดการความเครียดด้วยตัวเองที่นักจิตวิทยาแนะนำ พร้อมเคล็ดลับง่าย ๆ เช่น การหายใจอย่างมีสติ การเคลื่อนไหวร่างกาย และการพูดคุยสร้างกำลังใจ เพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

Read More