Happy Me Clinic

 

ด้วยความเร่งรีบและการแข่งขันสูงของผู้คนในยุคปัจจุบัน ทำให้ปัญหาสุขภาพจิตและความเครียดเป็นสิ่งที่หลีกหนีได้ยาก ดังนั้นการดูแลสุขภาพจิตให้แข็งแรงก็สำคัญไม่แพ้สุขภาพร่างกาย และหากปัญหานั้นร้ายแรงเกินกว่าจะจัดการอารมณ์ตัวเองได้ การรักษาด้วยจิตบำบัด CBT หรือ Cognitive Behavioral Therapy คืออีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพ และได้รับความนิยมแพร่หลายทั่วโลก โดยใช้หลักการสำคัญคือการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมที่เป็นปัญหา เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถจัดการกับอารมณ์และพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น เราจึงอยากชวนทุกท่านมาทำความเข้าใจกับจิตบำบัด CBT ที่ทำการรักษาด้วยนักจิตวิทยาหรือนักจิตบำบัด เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการดูแลสุขภาพจิตของตนเองได้อย่างถูกต้อง

จิตบำบัด CBT รักษาอะไรได้บ้าง?

CBT เป็นแนวทางการรักษาที่เหมาะสำหรับปัญหาสุขภาพจิตหลายประเภท โดยเฉพาะเคสเหล่านี้

1. ภาวะซึมเศร้า (Depression) ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถระบุและปรับเปลี่ยนความคิดด้านลบที่มักเกิดขึ้นบ่อยได้ เช่น การมองว่าตนเองไม่มีคุณค่า หรือการโทษตนเอง กระบวนการนี้จะช่วยสร้างมุมมองเพื่อให้คิดในเชิงบวกได้ดีขึ้น โดยนักจิตวิทยามักใช้ CBT เพื่อช่วยผู้ป่วยลดอาการซึมเศร้าที่คาดหวังผลลัพธ์ได้ในระยะยาว

2. ความวิตกกังวล (Anxiety) ผู้ที่เผชิญกับความวิตกกังวลเรื้อรัง จะสามารถเรียนรู้วิธีระบุความคิดที่กระตุ้นให้เกิดความกังวลได้ จากนั้นนักจิตบำบัดจะแนะนำเทคนิคเพื่อฝึกการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก ๆ หรือการฝึกสมาธิเพื่อรับมือกับสถานการณ์นั้น ๆ

3. ปัญหาการจัดการความโกรธ (Anger Management) ผู้ป่วยจะสามารถเข้าใจต้นตอของความโกรธ และฝึกวิธีควบคุมอารมณ์ผ่านเทคนิคการต่าง ๆ และการสื่อสารกับคู่สนทนาระหว่างที่มีอารมณ์โกรธอยู่

4. โรคกลัว (Phobias) สำหรับผู้ที่มีภาวะโรคกลัว เช่น กลัวความสูง กลัวความมืด หรือกลัวการอยู่ในที่แคบ CBT จะช่วยให้ผู้ป่วยกล้าเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัวแบบค่อยเป็นค่อยไปและปลอดภัย ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “Exposure Therapy” โดยนักจิตบำบัดจะกำหนดขั้นตอนให้เหมาะสมกับความพร้อมของผู้ป่วย ภายในสถานที่ปลอดภัยและควบคุมได้อย่างในคลินิกสุขภาพจิต

5. ปัญหาด้านพฤติกรรมในเด็กและวัยรุ่น CBT จะช่วยให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองเข้าใจเด็ก ๆ และรู้ว่าจะใช้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละวัยได้อย่างไร โดยเฉพาะกับกรณีของเด็กสมาธิสั้น หรือในช่วงวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมเข้าใจยาก

6. ความผิดปกติด้านการกิน (Eating Disorders) สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการกิน เช่น โรคเบื่ออาหาร หรือโรคกินไม่หยุด CBT สามารถช่วยปรับทัศนคติและพฤติกรรมการกินให้เหมาะสมขึ้นได้

จะเห็นได้ว่า CBT เป็นการรักษาที่มุ่งเน้นการแก้ไขความคิดและพฤติกรรม จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาจิตบำบัดที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน

ขั้นตอนการรักษาด้วยจิตบำบัด CBT

การรักษาด้วย CBT ที่ถูกวิธี ควรดำเนินการรักษาโดยนักจิตวิทยาหรือนักจิตบำบัดที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งจะมีขั้นตอนดังนี้

1. การประเมินเบื้องต้น ในขั้นตอนแรก นักจิตวิทยาจะพูดคุยกับผู้ป่วยเพื่อทำความเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล หรือปัญหาจากปัจจัยอื่น ๆ การเริ่มต้นด้วยการพูดคุยจะช่วยสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจระหว่างผู้ป่วยกับนักจิตบำบัด เพื่อนำไปกำหนดแผนการรักษาต่อไป

2. การระบุรูปแบบความคิดที่ผิดปกติ ในขั้นตอนนี้ผู้ป่วยได้รับรู้ถึงความคิดด้านลบที่อาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์และพฤติกรรม เช่น คิดว่า “ฉันทำอะไรก็ล้มเหลวเสมอ” หรือ “คนอื่นไม่ชอบฉัน” ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเปลี่ยนแปลงมุมมองและเห็นคุณค่าในตัวเองได้มากขึ้น

3. การเปลี่ยนความคิด เมื่อระบุความคิดที่เป็นต้นเหตุได้แล้ว นักจิตบำบัดจะช่วยผู้ป่วยปรับเปลี่ยนความคิดเหล่านั้น เพื่อให้สามารถคิดได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้น

4. การฝึกทักษะใหม่ ๆ ผู้ป่วยจะได้รับการสอนทักษะใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถควบคุมชีวิตประจำวันให้สมดุลขึ้น เช่น ฝึกร่างกายและจิตใจให้ผ่อนคลาย การกำหนดตารางเวลาชีวิต หรือการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจได้ด้วยตนเอง

5. การนำคำแนะนำไปใช้ในชีวิตจริง ผู้ป่วยจะได้รับมอบหมายแบบทดสอบเพื่อฝึกฝนทักษะที่ได้เรียนรู้ไป เช่น การเผชิญหน้ากับความกลัว หรือการสื่อสารกับผู้อื่นเพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ และทำการจดบันทึกเหตุการณ์และอารมณ์ต่าง ๆ เอาไว้ เพื่อวิเคราะห์หรือปรับแผนการรักษาโดยนักจิตบำบัด

6. การติดตามผล หลังจบการรักษานักจิตวิทยาอาจจะยังคงมีการติดตามความคืบหน้าและให้คำแนะนำเพิ่มเติม เช่น การปรับปรุงเทคนิคที่ใช้ หรือการเสริมสร้างพฤติกรรมด้านบวก เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถรักษาความสมดุลทางจิตใจได้โดยไม่กลับมาเกิดสภาวะเดิมอีก

จะเห็นได้ว่า จิตบำบัด CBT เป็นการรักษาที่ช่วยให้ผู้ป่วยปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้ ซึ่งหากไม่ใช่กรณีมีสภาวะจิตใจขั้นร้ายแรง ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ใช้ยาในการรักษา จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษากับนักจิตวิทยาหรือนักจิตบำบัด นอกจากนี้หากผู้ป่วยฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ ก็จะยิ่งช่วยสร้างทักษะในการจัดการปัญหาอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ง่ายขึ้น และหากคุณกำลังมีปัญหาด้านสุขภาพจิต ก็สามารถขอรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้าน CBT ที่คลินิกสุขภาพจิตได้ เพื่อให้ชีวิตกลับมามีความสมดุลและมีความสุขดังเดิม

HAPPY ME CLINIC พร้อมดูแลใจคุณทุกวัน

ไม่ว่าคุณจะเผชิญความท้าทายใดในชีวิต HAPPY ME CLINIC คลินิกสุขภาพจิต พร้อมให้คำปรึกษาในราคาที่เข้าถึงได้ “เรื่องใจ ให้เราดูแล” ติดต่อเราเพื่อรับการบำบัดที่เหมาะกับคุณและก้าวสู่สุขภาพจิตใจที่แข็งแรงในแบบที่คุณคู่ควร

โรคซึมเศร้า vs โรคแพนิค ความแตกต่างที่ต้องแยกให้ออก

โรคซึมเศร้า vs โรคแพนิคคืออะไร ทำความเข้าใจความแตกต่าง อาการ และวิธีสังเกตเบื้องต้น เพื่อดูแลสุขภาพจิตของคุณให้ดีขึ้นได้

Read More

เครียดแค่ไหนก็เอาอยู่ 5 วิธีจัดการความเครียดด้วยตัวเองที่นักจิตวิทยาแนะนำ

วิธีจัดการความเครียดด้วยตัวเองที่นักจิตวิทยาแนะนำ พร้อมเคล็ดลับง่าย ๆ เช่น การหายใจอย่างมีสติ การเคลื่อนไหวร่างกาย และการพูดคุยสร้างกำลังใจ เพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

Read More

จิตบำบัด CBT (Cognitive Behavioral Therapy) คืออะไร? ช่วยอะไรได้บ้าง?

ทำความรู้จักกับจิตบำบัด CBT (Cognitive Behavioral Therapy) การรักษาโดยนักจิตบำบัดหรือนักจิตวิทยาที่ช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตได้โดยไม่ต้องใช้ยา

Read More